วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2567

อัยเยอร์เวง การจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยชุมชน

 25 มิ.ย. 2562 21:34 น.    เข้าชม 3699

      ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ตำบลที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา และ สายน้ำ มีการร่วมด้วยช่วยกันผลักดันทั้งจากภาครัฐ และ ชุมชน ให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับภูมิภาคอาเซียน ความร่วมมือในการจัดการการท่องเที่ยวของตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย จากกัวลาลัมเปอร์ ปีนัง ตรังกานู ยะโฮร์ มะละกา ฯลฯ ที่เลือกมาเที่ยวประเทศไทยด้วยระยะทางที่ไม่ไกล และ ตั้งใจมาพิชิตยอดเขาฆูนุงสิลิปัต แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติระดับอาเซียน
จากทะเลหมอกสู่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืนของชุมชน
      การวางแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดยหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อการจัดการอย่างเป็นระบบ และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางชุมชนได้จัดการโดยแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จุดแวะพักริมทาง การท่องเที่ยวผจญภัย การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเกษตรโฮมสเตย์ ในส่วนการปฏิบัติได้เน้นการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ ลูกหลานชาวอัยเยอร์เวงได้รับบทบาทสำคัญในทีมงานขับเคลื่อนจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กลุ่มอัยเยอร์เวงโฮมสเตย์เกิดขึ้นโดยการรวมตัวกันของคนในชุมชนเพื่อบริหารจัดการร่วมกัน จัดสรรที่พักให้กับลูกค้า และ รักษามาตรฐานความสะอาดของที่พักโดยมีการหมุนเวียนไปเยี่ยมเยียนโฮมเสตย์ทุกแห่งอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

      จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต โดยทะเลหมอกยามเช้าที่นี่สามารถมองเห็นได้เฉลี่ยปีละ 8 เดือนไม่เว้นแม้ช่วงหน้าร้อน ขณะที่ช่วงเวลาสวยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 06.00 - 08.00 น. ยามที่แสงแรกโผล่พ้นขอบฟ้าแตะสลับเวิ้งทะเลหมอกส่องประกายลอดช่องแสงงามดุจดั่งสวรรค์บนดิน จึงได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทย และ ชาวมาเลเซีย เป็นพื้นที่ตามโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ย้อนกลับไปในช่วงการเริ่มต้นทางองค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวงได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวร่วมกับชุมชน และ ได้ทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พบว่า จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวงมีความเหมาะสม มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงมีการรวมตัวกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมออกแบบการจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 มีเป้าหมายเพื่อความอยู่ดีกินดีของชุมชนท้องถิ่น จากแต่เดิมเป็นเหมือนแดนสนธยา ปัจจุบันกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทุกคนทุกเพศทุกวัยอยากมาชื่นชม จุดเด่นของทะเลหมอกอัยเยอร์เวงคือมีทำเลที่ชมทะเลหมอกได้ 3 จุด จุดแรกคือที่ยอดสูงสุด มีหอชมวิวทะเลหมอก ส่วนจุดที่ 2 กับจุดที่ 3 อยู่ถัดลงมาประมาณ 400 เมตร มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม น้ำชา กาแฟ และ ยังมีจุดพักกางเต็นท์ในบริเวณสวนยางชาวบ้านด้วย นักท่องเที่ยวสามารถชมภาพทะเลหมอกได้อย่างจุใจ โดยเฉพาะหากเป็นจุดชมวิวที่ 2 บริเวณสวนยาง จะมองเห็นทะเลหมอก และ ยอดเขาฆูนุงซิลิปัตอยู่ไม่ไกล
Gunung Silipat Thailand เลิกกรีดยางมานำเที่ยว

      อีกหนึ่งสถานที่ไฮไลต์สำคัญของอัยเยอร์เวงได้แก่ ยอดเขาฆูนุงสิลิปัต หรือฆูนุงสาลี ยอดเขาซึ่งมีความสวยงามมากๆ และ เป็นที่หมายของนักท่องเที่ยวแนวเดินป่าอยากจะมาเยือน เมื่ออยู่บนยอดเขาจะสามารถมองเห็นแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่แตะทะเลหมอกได้ในมุม 360 องศา และได้รับการจัดอันดับเส้นทางเดินป่า/ปีนเขาแตะขอบฟ้าเมืองไทย เป็นอันดับที่ 14 และ เป็นที่มาของทีมงานท้องถิ่น กลุ่มฆูนุงสิลิปัตไทยแลนด์ (Gunung Silipat Thailand) เป็นการรวมตัวของทีมงานนำเที่ยวเขาฆูนุงสิลิปัต โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามาทำงาน สร้างรายได้ และ มีจิตสำนึกรักบ้านเกิดของตนเอง จากแต่เดิมพวกเขาทำอาชีพกรีดยาง ต่อมาเมื่อยางราคาตก พวกเขาต้องเลิกกรีดยาง หันมานำนักท่องเที่ยวขึ้นภูเขา ปัจจุบันพวกเขาสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายๆ ด้วยธุรกิจการท่องเที่ยวนี้เอง นอกจากมียังเกิดธุรกิจร้านค้าชุมชนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ขายน้ำดื่ม เสบียงอาหาร ของที่ระลึก รวมไปจนถึงให้บริการห้องน้ำ และ บริการพื้นที่กางเต้นท์ในราคาย่อมเยา

ล่องแก่งแม่น้ำปัตตานี

      อัยเยอร์เวง จากพื้นที่ที่แทบไม่มีใครรู้จัก กลายมาเป็นจุดหมายสำคัญของผู้มาเยือน ด้วยผืนป่าที่มีความสมบูรณ์งดงาม นำไปสู่การเรียนรู้ใหม่ให้รู้จักการต่อยอดไปสู่การค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สร้างรายได้เข้าถึงชุมชน และ ชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ครบวงจร และ ทั่วถึง เป้าหมายต่อไปจึงมุ่งขยายเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ จากทะเลหมอกบนยอดเขา หันเหสู่วิถีความท้าทายใหม่ผ่านกระแสสายน้ำสู่กิจกรรมการล่องแก่งแม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่านพื้นที่อัยเยอร์เวง โดยมีจุดเริ่มต้นจากเสียงสนับสนุนจากกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ผู้ที่ต้องการความท้าทาย หลังจากที่หลายคนเคยมีประสบการณ์ชิมลางการล่องแก่งมาแล้วทั้งสิ้น หากแต่ค้างคาใจทำไมไม่ทำ และ เที่ยวในบ้านเรา ช่วยกันลงมือบุกเบิกเส้นทางท่องเที่ยวล่องแก่งแม่น้ำปัตตานี สร้างงานสร้างรายได้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ โดยจะต้องผ่านการฝึกอบรม และ ฝึกฝนการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในการล่องแก่งมาแล้วทั้งสิ้น โดยข้อตกลงนี้ถือเป็นนโยบายด้านความปลอดภัยร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว จนปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเส้นทางล่องแก่งเฉลี่ยวันละ 1,000 ราย และนี่คือความแข็งแกร่งด้วยความร่วมมือของชาวบ้าน และ ทุกภาคส่วนในพื้นที่ ด้วยเป้าหมายที่วางไว้ว่าภายในปี 2020 ตำบลอัยเยอร์เวงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในระดับอาเซียน และ นี่คือสิ่งท้าทายของชุมชนเล็กๆ ที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และ ยั่งยืน มาเยือนยะลาครั้งใด อย่าลืมมาชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เยือนฆูนุงสาลี และ ล่องแก่งแม่น้ำปัตตานี แล้วจะรู้ว่าชายแดนใต้งดงามกว่าที่คุณคิด

 

ความคิดเห็น