บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก วันนี้ ประชาชนเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับเข้าช่วงรอมฎอน

 24 เม.ย. 2563 13:15 น.    เข้าชม 781

          เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 ที่ด่านพรมแดนสุไหงโกลก อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส บรรยากาศการเดินทางเข้ามาของคนไทย วันนี้เป็นวันที่ 6 ยังคงมีประชาชนเดินทางเข้ามาทางด่านพรมแดนสุไหงโกลกอย่างต่อเนื่อง โดยยอดที่ลงทะเบียนไว้ 105 คน เข้ามาจริง 55 คน หลังเวลาปิดด่าน 12.00 น ซึ่งหนึ่งนั้น มีพระสงฆ์จากวัดไทย เมืองโกตาบารู รวมอยู่ด้วย โดยเจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมได้ดูแล พร้อมจัดอาหารเพลถวาย ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคและส่งต่อเข้า Local Quarantine นอกจากนี้ ในวันนี้มีผู้ที่เข้ามานอกระบบผิดกฎหมายอีกกว่า 71 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ลงทะเบียนไว้กับสถานฑูตและมีกำหนดเดินทางในวันที่ 19 และ 20 เม.ย.63 ที่ผ่านมา แต่เดินทางมาไม่ทันตามกำหนดเวลา เพราะเข้าใจว่าด่านปิด ทำให้ตกค้างอยู่ในฝั่งมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงได้นำทั้งหมดเข้าเปรียบเทียบปรับ ก่อนนำเข้าคัดกรองโรคและส่งต่อยัง Local Quarantine แยกตามจังหวัดต่อไป

          พลตรี ศานติ สกุนตนาค ผู้บังคับการกองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า ภาพรวม 4-5 วัน ที่ผ่านมา การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้เดินทางเข้ามามีปริมาณอยู่ในเกณฑ์ที่เจ้าหน้าที่สามารถรองรับได้ และวันนี้เป็นวันที่จะมีการดูดวงจันทร์เพื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอน เท่าที่สอบถามผู้ที่เดินทางเข้ามาส่วนใหญ่จะชะลอการเดินทางเพราะเกรงจะมาไม่ทันช่วงรอมฎอน ประกอบกับสถานกงสุลในมาเลเซียได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชะลอการเดินทางในช่วงนี้ ทำให้ปริมาณผู้เดินทางไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวันเพื่อให้การทำงานทุกส่วนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

          ด้าน นายอับดุลฮัก แคแล แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในร้านต้มยำกุ้งที่รัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลยเซีย ได้บอกว่า ตนกับเพื่อนได้รวบรวมเงินกว่า 20,000 บาท เหมารถมาจากเมืองยะโฮร์บารู เดินทางกลับมาไทย เพื่อมารอมฎอนที่บ้าน อ. ปานาเระ จ.ปัตตานี เพราะอยู่ทางโน่นลำบากมาก ร้านอาหารปิดนับเดือน มาถึงฝั่งไทยไม่มีเงินเหลือติดตัว ดีทีมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ประสานงานให้ติดต่อญาติให้ ทำให้มีเงินเสียค่าปรับ ตนและเพื่อนพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการของรัฐที่กำหนดทุกอย่าง ดีใจได้กลับมาถึงบ้าน ขณะที่ช่วงบ่าย 3 โมง บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโกลก ได้มีพายุลมแรงและฝนตกลงมาอย่างหนัก พัดเอาเต้นท์ เก้าอี้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ปลิวว่อน ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้เดินทางต้องช่วยกันจับเสาเต้นท์ และเก็บอุปกรณ์ เพื่อไม่ให้ลมพายุพัดไป ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก